อย่างที่เราทราบกันดีว่าช่วงนี้ DeFi และ NFT มีการเติบโตที่รวดเร็วอย่างมาก ซึ่งแพลตฟอร์มส่วนใหญ่ก็จะอยู่บนเชนของ Ethereum ส่งผลให้มีผู้ใช้งานบน Ethereum Network ที่เพิ่มสูงขึ้น และต้นทุนค่า Gas ก็แพงขึ้นเช่นกัน ทำให้นักพัฒนา DApp ที่ต้องการขยับขยายต้องเจออุปสรรคในเรื่องต้นทุน และความเร็ว เมื่อโปรเจกของพวกเขาอยู่บน Ethereum Blockchain
Ethereum Virtual Machine (EVM) ซึ่งเป็นตัวช่วยให้นักพัฒนา DApp บนเชน Ethereum สามารถเข้าถึงเชนอื่น ๆ ได้โดยที่ไม่ต้องแก้ Codeใหม่ทั้งหมด เพราะอย่างที่เรารู้กันดีว่า Ethereum ต้องใช้ภาษา Solidity ในการพัฒนา DApp การที่นักพัฒนาอยากจะย้ายไปเชนอื่นที่เขาไม่ได้ใช้ภาษา Solidity ก็น่าจะเป็นเรื่องที่ต้องคิดหนักเลย แต่ EVM สามารถทำให้ปัญหานี้กลายเป็นแค่เรื่องกล้วย ๆ วันนี้เราเลยจะพาไปทำความรู้จักกับเครื่องมือ EVM Application บน Near Protocol ที่ชื่อว่า Aurora เครื่องมือที่จะทำให้โปรเจกบน Ethereum 1.0 แปลงร่างกลายเป็นโปรเจก Ethereum 2.0 ทันที
Aurora คืออะไร เข้ามาช่วย Near Protocol อย่างไร
Aurora คือ โปรเจก Ethereum Virtual Machine (EVM) บน Near Protocol ที่จะทำให้นักพัฒนาบน Ethereum สามารถขยายโปรเจกของพวกเขามาที่เชนของ Near ได้ด้วยวิธีง่าย ๆ เหมือนกับการเปลี่ยน RPC แค่นั้นเอง โดย Aurora จะแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ Aurora Engine เป็นตัวที่ช่วยปรับ Smart Contract ที่เป็น Solidity และ Vyper ให้สามารถรันบน Near Protocol ได้อย่างราบรื่น และส่วนที่ 2 คือ Aurora Bridge ผ่าน Rainbow Bridge สำหรับถ่ายโอนโทเค็น และข้อมูลต่าง ๆ ระหว่าง Ethereum และ Aurora
ด้วยความง่ายที่ Aurora อำนวยความสะดวกให้กับนักพัฒนาทำให้เรามองได้ว่ามีโอกาสที่โปรเจก และ DApp ต่าง ๆ อาจจะย้ายมาที่ Near Protocol และถ้าเป็นแบบนั้น Community ของ Near ก็คงจะต้องเติบโตขึ้นอย่างมาก
สรุป Aurora เจ๋งอย่างไร ?
- ค่าธรรมเนียม หรือค่า Gas บน Aurora ต่ำกว่า Ethereum ถึง 1,000 เท่า
- Aurora สามารถจัดการธุรกรรมได้หลายพันรายการต่อวินาที ซึ่งทำได้มากกว่ากว่า Ethereum 1.0 อยู่ที่ประมาณ 50 เท่าเลยทีเดียว
- การทำธุรกรรมในขั้นตอนสุดท้ายของ Aurora จะถูกส่งต่อมาจาก Near Protocol ซึ่งสามารถยืนยันธุรกรรม 1 บล็อกได้ภายใน 1 วินาที เมื่อเทียบกับ Ethereum ที่ต้องใช้เวลา 13 วินาที สำหรับการยืนยันธุรกรรม 1 บล็อก ความรวดเร็วของ NEAR Blockchain ยังช่วยลดความเสี่ยงของการโจมตีแบบ frontrunning ได้อีกด้วย
เหรียญ $Aurora Token คืออะไร ใช้ทำอะไร และซื้อได้จากที่ไหน
AURORA Token หรือ $AURORA เป็น Governance Token ซึ่งจะถูกกำหนดการปล่อยเหรียญ ออกมาในระบบ หรือล็อคเหรียญเอาไว้ขึ้นอยู่กับ AuroraDAO กลุ่มคนที่ทำหน้าที่กำกับดูแลอิสระของโปรโตคอล Aurora หรือผู้ที่ถือเหรียญ AURORA แต่ AURORA จะไม่ได้ถูกใช้ในการเป็นค่า Gas ในการทำธุรกรรม เพราะการทำธุรกรรมบน Aurora จะใช้ ETH เป็น Utility Token ในการจ่ายค่าธรรมเนียมต่าง ๆ
AURORA Token มี Max Supply อยู่ที่ 1000,000,000 $AURORA โดยผ่านการ IDO ทั้งหมด 3 ครั้ง และจบไปเรียบร้อย ซึ่งในปัจจุบัน (22/11/2021) เหรียญ $AURORA ได้ลิสต์บน Centralized Exchange อย่าง Gate.io แล้ว…
ราคาเหรียญ $AURORA (CoinMarketCap) : CLICK
ซื้อขายเหรียญ $AURORA (Gate.io) : CLICK
วิธีทำ Yield Farming บน Trisolaris แบบ Step By Step
ขั้นตอนแรกเพิ่ม Aurora Mainet บน Metamask Wallet
ไปที่ Chainlist จากนั้น Search หา “Aurora” ที่ช่องค้นหาด้านบน จากนั้นเลือก “Connect Wallet” กับ Aurora Mainet ทำการยืนยันธุรกรรมให้เรียบร้อย
เพียงเท่านี้ก็ Add Aurora Mainet เรียบร้อยแล้ว
ขั้นตอนที่ 2 Bridge จาก Near ไป Aurora ด้วย Rainbow Bridge
ไปที่ Rainbow Bridge โดยเราจะทำการ Bridge จาก Near ไป Aurora ทำการ Connect ทั้งกระเป๋า Near Wallet และ Metamask ที่เป็น Aurora Mainet ให้เรียบร้อย
วิธีการสร้าง และ ใช้งาน Near Wallet : CLICK
จากนั้นคลิก “Begin New Transfer”
เลือกเหรียญ และใส่จำนวนเหรียญที่ต้องการ Bridge มายัง Aurora เรียบร้อยแล้วคลิก “Continue” และ Confirm Transaction จากนั้นก็รอจนกว่าระบบจะ Transfer เหรียญเสร็จ
ขั้นตอนที่ 3 ทำ Yield Farming บน Trisolaris
ไปที่ Trisolaris และ Connect กับ Metamask Wallet อย่าลืมเปลี่ยน Network เป็น Aurora Mainet ซึ่งในบทความนี้เราจะขอยกตัวอย่างการทำ Yield Farming ในคู่เหรียญ Near-ETH โดยตอนนี้ใน Wallet ของเรามีแค่ Near เท่านั้นเราต้องทำการ แบ่งส่วนหนึ่งไป Swap เป็นเหรียญ ETH สำหรับ Farming และค่า Gas ก่อน โดยไปที่หน้า Swap และใส่จำนวนเหรียญที่ต้องการ Swap ยืนยันการทำธุรกรรมให้เรียบร้อย เพียงเท่านี้ก็ได้เหรียญ ETH แล้ว โดยใน Metamask จะแสดงเป็นเหรียญ AETH
เมื่อมีทั้งเหรียญ AURORA และเหรียญ ETH คราวนี้เราก็พร้อมทำ Yield Farming กันแล้ว ไปที่หน้า Farm ในบทความนี้เราจะยกตัวอย่างการ Farm ในคู่เหรียญ ETH-wNEAR คลิก “Deposit”
คลิก “Add ETH-wNEAR Liquidity”
ใส่จำนวนคู่เหรียญที่ต้องการทำ LP จากนั้นคลิก “Supply”
Confirm Transaction ให้เรียบร้อย และรอสักครู่เป็นอันเสร็จ โดยเราสามารถดู และจัดการกับ Liquidity ของเราได้ที่หน้า Pool
Aorora Community
Aurora Website : CLICK
Twitter : CLICK
Telegram : CLICK
Discord : CLICK
Github : CLICK
Aurora เรียกได้ว่าเป็นเหมือนทางด่วนของถนนสายหลักอย่าง Near Protocol เลยก็ว่าได้ แถมยังเป็นเครื่องมืออำนวยความสะดวกที่รองรับ DApp ที่เป็น EVM จาก Ethereum อีกด้วย ทำให้หน้าติดตามว่าการเติบโตของ Near และ Aurora นั้นจะไปได้ไกลมากน้อยขนาดไหน ส่วนในบทความนี้ไม่ใช่การแนะนำการลงทุนแต่อย่างใด เป็นเพียงการถ่ายทอดข้อมูลจาาก Official และประสบการณ์ของผู้เขียนเท่านั้น
สามารถติดตามข่าวสารข้อมูลเกี่ยวกับ Blockchain , DeFi , Crypto , NFT และ GameFi (Play To Earn) ได้ที่ Page Sputnikth