ทุกคนคงจะรู้จัก Ethereum Blockchain แพลตฟอร์ม Smart Contract แรกที่มีผู้ใช้งานมากที่สุด ซึ่งในปัจจุบันก็มีหลาย ๆ บล็อกเชนตั้งตนเป็นคู่แข่ง โดยเรียกตัวเองว่า Ethereum Killer และพยายามแก้ปัญหาจุดอ่อนต่าง ๆ ของ Ethereum ในบทความนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกับอีกหนึ่ง Ethereum Killer ถึงแม้จะยังอยู่นอกกระแสแต่โปรเจคของเขาเรียกได้ว่าทำมาดีมาก และอาจจะกลายเป็นไข่ทองคำของใครหลาย ๆ คนในอนาคต ไปทำความรู้จักกับ Avalanche (AVAX Coin) นั้นคืออะไร และวิธีการทำ Yield Farming บน Trader Joe แบบ Step By Step
Avalanche คืออะไร แตกต่างจากเชนอื่น ๆ ตรงไหน
Avalanche เป็นแพลตฟอร์ม Blockchain Technology ที่มี Smart Contract และเป็นแพลตฟอร์ม Open Source ซึ่งหมายความว่านักพัฒนาที่ต้องการสร้างโปรเจค หรือ dApp บนเชนของ Avalanche ก็สามารถมาดึง Source Code ของ Avalanche ไปใช้ได้เลย ภายใต้ระบบกระจายอำนาจ Decentralized โดยรวมก็จะคล้าย ๆ กับ Ethereum นั้นเอง…
Avalanche ก็จะเหมือนกับ Chain อื่น ๆ ที่เกิดขึ้นมาทีหลัง Ethereum โดยมีจุดประสงค์เพื่อแก้ปัญหาด้านความเร็ว และการปรับขนาด ซึ่ง Avalanche เรียกได้ว่าเป็นแพลตฟอร์มแรกที่สามารถลดเวลาที่ใช้ในการยืนยันธุรกรรมให้เหลือไม่ถึง 2 วินาที
Avalanche Protocol
Avalanche Protocol เป็นระบบ Proof Of Stake แต่จะพิเศษตรงที่ใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า DAG Consensus หรือ Direct Acyclic Graph Tangle เป็นเทคโนโลยีที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้แสดงผลลัพธ์ใดผลลัพธ์หนึ่ง สมมติว่ามี Node อยู่ 100 ที่รอยืนยันธุรกรรม ระบบจะสุ่ม Node จำนวนหนึ่ง เช่น สุ่มทีละ 10 Node เพื่อมาทำหน้าที่เป็น Validator หรือเพื่อทำหน้าที่ยืนยันธุรกรรม ระบบก็จะทำการถามว่าธุรกรรมนั้นถูกหรือไม่ โดยจะยึดตามเสียงข้างมาก และจะสุ่มไปที่กลุ่ม Node ต่อไปเรื่อย ๆ เป็นลูปแบบนี้ไปเรื่อย ๆ จนได้ครบ 100 Node สำหรับการยืนยันธุรกรรมหนึ่งธุรกรรม
ซึ่ง DAG Consensus จะช่วยให้ประหยัดพลังงานมากกว่าระบบ Proof Of Work ความเร็วในการประมวลผลก็มากขึ้นโดยความเร็วสูงสุดของ Avalanche จะอยู่ที่ 4500 Tran/Sec และทำให้มีความเป็น Decentralized มากขึ้นแก้ปัญหา 51% Attack ได้อย่างชะงักเลยทีเดียว และสิ่งนี้แหละที่ทำให้ Avalanche มีความแตกต่างจากเชนอื่น ๆ นั้นเอง
การทำงานของ Avalanche
Avalanche ถูกแบ่งการทำงานเป็น 3 ส่วนหลัก ๆ คือ Exchange Chain (X-Chain) , Contract Chain (C-Chain) และ Platform Chain (P-Chain) ซึ่ง X-Chain เป็น Chain สำหรับทำธุรกรรมทั่วไป ส่วน P-Chain สำหรับสร้าง Subnet การสร้าง Node ต่าง ๆ จะเกิดขึ้นใน Chain นี้ และ C-Chain สำหรับสร้าง Smart Contract ที่เขียนโดย Ethereum Virtual Machine (EVM)
การแยก Chain ออกมาเป็น 3 ส่วนนั้นทำให้ระบบการทำงานของ Avalanche มีประสิทธิภาพสูงมากยิ่งขึ้น เพิ่มความสามารถในการสื่อสารหรือ interoperability ได้ดีขึ้น และการที่ Smart Contract เขียนโดยใช้ EVM นั้นหมายความว่าสามารถนำ dApp ที่พัฒนาบน Ethereum มาใช้งานบน Avalanche ได้เช่นกัน…
เหรียญ AVAX Coin คืออะไรใช้ทำอะไร น่าลงทุนไหม ?
AVAX Coin เป็น Native Token และ Governance Token ของแพลตฟอร์ม Avalanche หน้าที่หลัก ๆ ของเหรียญนี้ก็คือใช้สำหรับจ่ายค่าธรรมเนียม หรือ Gas ใน Avalanche Chain
นอกจากนั้นยังสามารถ Staking เพื่อเป็น Validator (คนขุดเหรียญ AVAX) หรือผู้ยืนยันธุรกรรมบน Avalanche Chain ซึ่งทาง Avalanche คนที่เป็น Validator ก็จะได้รับผลตอบแทนเป็น $AVAX กลับมา โดยการจะเป็น Validator ต้องนำ AVAX Coin อย่างน้อย 2,000 $AVAX ไป Staking
ซึ่งการขุดเหรียญทำให้อาจเกิดภาวะมูลค่าของเหรียญเฟ้อได้ เนื่องจากยิ่งคนเข้ามาขุดเยอะปริมาณเหรียญ AVAX ในระบบก็จะเพิ่มมากขึ้น เมื่อตัวเหรียญมีเยอะขึ้นส่งผลให้มูลค่าของเหรียญลดลง และผู้ใช้งานอย่างเราก็จะต้องใช้ปริมาณเหรียญที่มากขึ้นในการจ่ายค่า Gas สำหรับการทำธุรกรรมแต่ละครั้ง แต่ AVAX ได้ป้องกันปัญหานี้ไว้แล้ว โดยทุกการทำธุรกรรม Ava Labs จะได้รับค่า Fee และจะนำ Fee มาเผาเพื่อป้องกันเงินเฟ้อ ทำให้สามารถป้องกันค่า Gas ที่แพงเกินเหมือนกับ Ethereum
ความเสี่ยง
Ethereum L.2 หาก Layer 2 ของ Ethereum สามารถทำให้ค่า Gas ถูกลง และเพิ่มความเร็วได้จริงก็ยังเชื่อว่า Ethereum จะเป็นผู้ชนะในตลาด Smart Contract อย่างแน่นอน เนื่องจากถึงแม้ว่าในปัจจุบันค่า Gas ของ Ethereum ยังคงแพงแสนแพง แต่ก็ยังปฏิเสธไม่ได้ว่าการใช้งานของ Ethereum ยังเป็นอันดับ 1 เพราะฉะนั้นถ้าค่า Gas ในอนาคตเป็นมิตรกับผู้ใช้มากกว่านี้ก็คงจะแมสมากกว่านี้ และคงไม่มีเหตุผลที่ผู้ใช้จะย้ายไป Chain อื่นจริงไหนครับ
***บทความนี้ไม่ใช่การแนะนำการลงทุนแต่อย่างใด***
การ Staking ผ่าน Avalanche Wallet (แบบ Delegate ขั้นต่ำ 25 $AVAX)
ขั้นตอนที่ 1 สร้าง Avalanche Wallet
ไปที่ AVAX.Wallet.Network คลิก “Create New Wallet” อย่าลืมว่าให้เก็บ Key Phase ไว้เป็นความลับ และปลอดภัย หรือ Ledger Nano S (เร็ว ๆ นี้)
ขั้นตอนที่ 2 คลิกที่ “EARN”
ในการที่จะ Stake จะต้องมี AVAX อยู่ใน P-Chain ก่อน โดยคลิก ” Transfer” เพื่อย้ายเหรียญจาก X-Chain มาไว้ใน P-Chain ใส่เหรียญที่ต้องการโอนไปยัง P-Chain และดำเนินการโอนให้เสร็จสิ้นโดยคลิกที่ปุ่ม “Tranfer” ด้านล่าง
โว๊วว! เพียงเท่านี้ก็เรียบร้อยเราสามารถ Stake AVAX Coin บน P-Chain ได้แล้ว
ขั้นตอนที่ 3 เพิ่ม Delegator!
คลิก “Add Delegator” จากนั้นเลือก Node ID ว่าเราจะทำธุรกรรมกับ Node ของใคร เมื่อเลือกได้แล้วคลิก “Select”
**ปล.กรณีที่ Delegate น้อย ให้ดูที่ Available ว่ามีพอไหม เช่น เราจะ Delegate 100 AVAX แต่ Available แค่ 90 แบบนี้เราจะไม่สามารถ Delegate ได้ นอกจากนั้นดูที่ End Time ว่าเหลือเวลาที่เราจะสามารถล็อคเหรียญไว้ได้อีกนานแค่ไหน**
ระบุระยะเวลา และจำนวนเหรียญที่ต้องการ Stake คลิก “Use This Address” หรือถ้าจะให้ Reward เข้าไปที่ Wallet อื่นก็สามารถเลือก “Custom Address” แทนได้ เรียบร้อยแล้วคลิก “Confirm”
เรียบร้อยแล้ว ! สามารถดูการประมาณการผลประกอบการได้ที่ Estimated Rewards
การสร้าง Passive Income ด้วย Trader Joe
Trader Joe คือ Decentralized Exchange บน Avalanche Chain ซึ่งแพลตฟอร์ม DeFi อย่าง Trade Joe นี้ได้สร้างปรากฏการณ์ดึงผู้ใช้งานกว่า 26,000 คน ให้เข้ามาใช้งานบนเชนของ Avalanche รวมทั้งมีคนเปิด Wallet เพิ่มขึ้นอีก 10 % และ มูลค่าการ Stake กว่า 1.2 พันล้านดอลลาร์เลยทีเดียว…
ซึ่งแพลตฟอร์ม DeFi ผู้พัฒนาจะไม่ได้เก็บเหรียญไว้เยอะ ๆ เพื่อบริหารสภาพคล่องเอง แต่จะให้ผู้ใช้เข้ามาเป็นผู้เพิ่มสภาพคล่อง หรือ LP ของแพลตฟอร์มแทน และจ่าย Reward ให้กับ LP เหล่านั้น ซึ่งการลงทุนแบบนี้ก็คือการทำ Yield Farming นั้นเอง
โดย Reward ที่จ่ายให้กับผู้ที่มา LP ในแพลตฟอร์ม Trader Joe จะจ่ายเป็นเหรียญ JOE Token และยิ่งมีผู้ใช้งานแพลตฟอร์ม Joe Trader มากขึ้น ผลตอบแทนต่อปี (APR) ก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากการใช้งานแพลตฟอร์มจะมีการจ่ายค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ก็จะใช้เหรียญ $JOE มากขึ้น ทำให้มีความต้องการของเหรียญนี้มีมากขึ้น มูลค่าของเหรียญก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
วิธีการทำ Yield Farming กับ Trader Joe
ขั้นตอนแรกทำการตั้งค่า Avalanche Wallet
1.ไปที่ AVAX.Wallet.Network คลิก “Create New Wallet”
2.จากนั้นทำการโอนเหรียญ AVAX เข้ามาไว้ใน X-Chain ของ Avalanche Wallet
ขั้นตอนที่ 2 ทำการเพิ่ม Avalanche Network เข้าไปใน Metamask Wallet
วิธีสร้าง Metamask Wallet หลังจากที่ทุกคนมี Metamask Wallet แล้วให้ทำการเพิ่ม Network โดยการไปที่ Custom RPC และป้อนรายละเอียดเหล่านี้
Network Name : Avalanche Network
New RPC URL : https://api.avax.network/ext/bc/C/rpc
Chain ID : 0xa86a
Symbol : AVAX
Explorer : https://cchain.explorer.avax.network/
จากนั้นทำการเพิ่ม Joe Token โดยการคลิกปุ่ม “Add Token” จากนั้นเลือก “Custom Token” และทำการใส่ราละเอียดเหล่านี้ลงไป
Token Contract Address: 0x6e84a6216ea6dacc71ee8e6b0a5b7322eebc0fdd
Token Symbol: JOE
เรียบร้อยแล้วคลิก “Next”
ขั้นตอนที่ 3 เชื่อมต่อ Metamask กับ Avalanche
กลับไปที่ Avalanche Wallet สังเกตุแถบเมนูด้านซ้ายคลิก “Cross Chain”
สำหรับ Destination Chain เลือกเป็น C-Chain
โอน AVAX Coin จาก Avalanche Wallet ไปที่ Metamask Wallet โดยคลิก “Send” ที่แถบเมนู
Sounce Chain ให้เลือกเป็น C-Contract
ป้อน Address Metamask Wallet โดยคัดลอก และวาง
ขั้นตอนที่ 4 ทำการ Swap จาก AVAX Coin เป็น JOE Token
ไปที่เว็บไซต์ Joe Trader และเชื่อมต่อ Metamask Wallet กับแพลตฟอร์ม สังเกตุที่ด้านขวาของหน้าจอที่หน้า Trade จะมีฟังก์ชั่น Swap คลิก
AVAX (From) และ JOE (To) ใส่จำนวน AVAX ที่ต้องการ Swap เป็นเหรียญ JOE จากนั้นคลิก “Confirm”
ขั้นตอนที่ 5 Yield Farming ด้วยการ LP
Farm Page และเลือกคู่เหรียญที่ต้องการฟาร์ม กำหนดจำนวนโทเค็นที่ต้องการฟาร์ม และทำการยืนยันการทำธุรกรรม และสามารถรับ Reward ได้โดยคลิก “Harvest” ซึ่ง Reward จะถูกอัพเดตทุก 2-3 นาที หรือกรณีที่ต้องการยกเลิกสามารถคลิก “Unstake”ได้เลย
การทำ LP ความเสี่ยงที่เรียกว่า impermanent loss (IL) ในกรณีที่ราคาของคู่เหรียญเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก แต่ถ้าราคาของเหรียญกลับมาเป็นเหมือนเดิมก็จะขจัดความเสี่ยงนี้ไปได้
เป็นไงกันบ้างทุกคนคงจะได้รู้จักกับ Avalanche และเหรียญ AVAX กันมากขึ้นแล้ว ซึ่งเจ้าตัว Avalanche นับเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มที่ลงแข่งในสนาม Smart Contract โดยด้านประสิทธิภาพนั้นเรียกได้ว่าเหนือกว่าผู้ที่วิ่งนำอย่าง Ethereum เกือบจะทุก ๆ ด้าน เพียงแต่ด้วยความที่เริ่มสตาร์ททีหลัง และทีมพัฒนาก็ยังมีจำนวนที่ไม่มาก นักลงทุนและผู้ใช้งานอย่างเรา ๆ ก็คงต้องคอยลุ้นกันต่อไปโดยเฉพาะถ้าคุณคือหนึ่งคนที่ถือเหรียญ AVAX Coin เอาไว้ก็คงจะต้องเอาใจช่วย Avalanche กันหนักหน่อย
บทความนี้ไม่ใช่การแนะนำการลงทุนแต่อย่างใด ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับ Blockchain , DeFi , Crypto , NFT และ GameFi ได้ที่ Page Sputnikth