ในปัจจุบันเริ่มมีนักลงทุนมากหน้าหลายตา ทั้งรายย่อย รายใหญ่ เริ่มนำเงินเข้ามาในโลกของ Decentralized Finance หรือ Defi กันมากขึ้น แต่แล้วก็เกิดคำถามขึ้นมาว่า ระบบบการเงินแบบ Defi จะสามารถแทนที่ ระบบการเงินแบบรวมศูนย์ที่เราใช้งานกันมาอย่างยาวนานได้หรือไม่ คำตอบก็คงจะเป็น…ไม่มีทาง! เพราะยังมีหลายอย่างที่ระบบการเงินแบบ Defi ยังไม่สามารถทำได้เหมือนกับระบบการเงินแบบเก่า แต่วันนี้ทุกคนจะต้องเปลี่ยนความคิดนั้นอย่างแน่นอนหลังจากที่ได้รู้จักกับ แพลตฟอร์ม Alpha Finance
Alpha Finance คืออะไร ?
Alpha Finance หรือ Alpha คือ แพลตฟอร์มที่ให้บริการเกี่ยวกับ Decentralized Finance หรือก็คือแพลตฟอร์มที่เปิดให้นักลงทุนเข้ามาทำ Yield Farming ซึ่ง Alpha จะมีลักษณะเป็น Cross Chain สามารถทำงานได้ทั้งบน Binance Smart Chain และ Ethereum นอกจากนั้นผู้ใช้งานยังสามารถกู้เหรียญบนแพลตฟอร์มของ Alpha ได้อีกด้วย
ยังไม่หมดเพียงเท่านั้นความพิเศษที่ทำให้ Alpha แตกต่างจากแพลตฟอร์มที่ให้บริการคล้าย ๆ กันอย่าง Compound Finance นั้น ก็คือ ผู้ใช้งานสามารถใช้ Leverage ในการทำ Yield Farming หรือก็คือการนำเงินไปวางค้ำประกันเพื่อที่จะสามารถกู้มา Farm ได้มากขึ้น ซึ่ง Alpha นับว่าเป็นเจ้าแรกที่นำเอาการใช้ Leverage มาใช้งานในโลก Defi โดยผู้ใช้งานสามารถ Leverage ได้มากสุดถึง 2.5 เท่า
ยกตัวอย่างเช่น สมมติว่าเอาเงินมาฝาก 100 ETH ใช้ Leverage 2.5 เท่า หรือ กู้มา 150 ETH เท่ากับว่าเราเป็นหนี้อยู่ 150 ETH และเราสามารถนำเหรียญไป Farm ได้ถึง 250 ETH
100 ETH * 2.5 -> 250 ETH
ในกรณีนี้จะสมมติว่าเรานำ 250 ETH ไป Farm ใน ETH/USDT โดยจะถูกแบ่งไปซื้อ ETH ครึ่งนึง และ USDT อีกครึ่งนึง ตาม Pool ต่าง ๆ
1 ETH = 2000 USD (14/07/2564)
ดูราคาเหรียญ ETH : CLICK
125 ETH : 250,000 USDT
เท่ากับว่าเราก็จะได้ผลตอบแทนจากการ Farm ที่มากขึ้น เช่นจากเดิมได้ผลตอบแทน 20 % ต่อปี พอ Leverage ไป 2.5 เท่า นั่นเท่ากับว่าเราจะได้ผลตอบแทนเพิ่มขึ้นเป็น 75 % ต่อปี
แล้วแบบนี้มีโอกาสโดน บังคับชำระหนี้ (Liquidation) หรือไม่ ? แน่นอนว่าต้องมี แต่การโดนบังคับชำระหนี้ในแพลตฟอร์มนี้ค่อนข้างมีความแตกต่างจาก การโดนบังคับชำระหนี้ทั่ว ๆ ไป เพราะโดยปกติจะโดนบังคับชำระหนี้ในกรณีที่มูลค่าเหรียญลงมาถึงจุดนึง แต่ Alpha จะทำการบังคับชำระหนี้เมื่อราคาเหรียญพุ่งขึ้นไปแทน ดูตัวอย่างกันว่าทำไมเป็นแบบนั้น
จากตัวอย่างเดิม เรามี 100 ETH กู้มา 150 ETH
เมื่อราคา ETH พุ่งขึ้นมาก ๆ 100 ETH ซึ่งเป็น Position ของเราก็จะมีมูลค่ามากขึ้น แต่นั่นหมายความว่ามูลค่าหนี้จากเดิมที่เรามี 150 ETH ก็จะเพิ่มขึ้นเช่นกัน เมื่อไหร่ก็ตามที่มูลค่าของหนี้มากกว่ามูลค่าของ Position+ผลตอบแทนต่อปี ก็จะมีโอกาสโดนบังคับชำระหนี้ได้
ดังนั้น หลักการสำหรับการใช้ Leverage กับทาง Alpha คือ เราต้องคาดการณ์ว่า ผลตอบแทนต่อปีที่จะได้รับนั้นจะต้องมากกว่า ราคาเหรียญ ETH ที่เพิมขึ้น สมมติ ผลตอบแทนต่อปี 100 % ราคาเหรียญ ETH ก็ไม่ควรขึ้นมากกว่า 100 % ไม่เช่นนั้นเราจะโดนบังคับชำระหนี้ ซึ่งก็คือการบังคับขายเหรียญ และจะทำให้ขาดทุนได้ถึงแม้ราคาเหรียญ ETH จะเพิ่มขึ้นมาก็ตาม แต่อย่าลืมว่าเงินของคุณอีกครึ่งนึงอยู่ในเหรียญ USDT เพราะหากโดนบังคับขายก็ต้องยอมขายทั้งคู่เหรียญนั่นเอง
นอกจากนั้นใครที่ใช้ Leverage ในการ Farm กับทาง Alpha Finance เขาจะแจก เหรียญ Alpha Coin ให้อีกด้วยทำให้ผลตอบแทนต่อปีเพิ่มขึ้นชนิดที่เรียกได้ว่าเป็นเท่าตัวเลยทีเดียว
เว็บไซต์ Alpha Finance Lab : CLICK
Alpha Coin คืออะไร ?
Alpha Coin คือ เหรียญที่เป็นทั้ง Governance Token และ Utility Token หรือก็คือใครที่ถือเหรียญนี้สามารถโหวตกำหนดนโยบาย และ อนาคตของแพลตฟอร์ม Alpha ได้ และยังใช้สำหรับการปล่อยกู้ หรือ Stake ไว้ก็สามารถทำได้เช่นกัน โดย Alpha Coin จะแจกให้กับ Yield Farmer ที่ใช้ Leverage หรือถ้าใครอยากได้ก็สามารถไปซื้อใน Exchange ก็ได้ เช่น Binance Exchange เป็นต้น
ดูราคาเหรียญ Alpha Coin : CLICK
เหรียญ Alpha Coin ดีไหม น่าลงทุนหรือไม่ ?
Alpha Coin เคยมีมูลค่าสูงสุดถึง 2.92 ดอลลาร์สหรัฐฯ (90.46 บาท) โดยในปัจจุบันวันที่ 14/07/2564 ราคา Alpha Coin มีราคาอยู่ที่ 0.65 ดอลลาร์สหรัฐ เท่ากับว่าราคาในปัจจุบันลงมาถึง 77.74 %
โดย Supply ในปัจจุบันของ Alpha Coin อยู่ที่ 285.58 ล้านAlpha โดยมี Max Supply อยู่ที่ 1000 ล้านAlpha เท่ากับว่าตอนนี้เหรียญถูกปล่อยออกมาในตลาดเพียงแค่ 28.55 % ของเหรียญทั้งหมดเท่านั้น
มองว่าเหรียญ Alpha Coin จะน่าลงทุนหรือไม่ขึ้นอยู่กับแพลตฟอร์ม Alpha Finance เป็นหลักว่าจะสามารถช่วยแก้ปัญหาในระบบ Defi ได้มากน้อยเพียงใด ซึ่งในตอนนี้มองว่าพื้นฐานของ Alpha ค่อนข้างมีความน่าสนใจ เพราะ มีความแปลกใหม่ในเรื่องของการใช้ Leverage และแน่นอนว่า Pool ไหนที่ให้ผลตอบแทนสูง ๆ เงินลงทุนก็มักจะไหลไปที่นั่น ถึงแม้ว่าบาง Pool จะมีความเสี่ยงมากกว่าการใช้ Leverage อีกก็ตาม ดังนั้น จึงมองว่า Alpha Coin เป็นอีกหนึ่งเหรียญที่น่าสนใจไม่น้อยเลย
โปรเจคของ Alpha Finance
Alpha Lending
คือโปรเจคที่ให้ผู้ใช้งานสามารถปล่อยกู้ และให้กู้ยืมเหรียญคริปโต โดยใครก็ตามที่ต้องการปล่อยกู้ก็ให้นำเหรียญมาฝากไว้กับทาง Alpha เมื่อฝากแล้วจะได้รับเหรียญ alToken โดยสมมติว่าคุณนำเหรียญ ETH มาฝาก ค่าเงิน ETH ของคุณก็จะหายไปจาก Wallet แต่จะแสดงเป็น alETH แทน โดยเมื่อคุณถอน alETH ก็จะหายไปจาก Wallet ของคุณ และจะได้รับเหรียญ ETH ของคุณ พร้อมดอกเบี้ยคืนมา
สำหรับผู้กู้จะต้องทำการฝากเงินเข้าไปเพื่อเป็นการวางหลักประกัน โดยแต่ละเหรียญจะมีการกำหนดหลักประกันแตกต่างกันไป โดยการกู้นั้นจะมีดอกเบี้ยด้วย
Alpha Homora


โปรเจคนี้เรียกได้ว่าเป็นจุดเด่นของ Alpha เลยนั่นก็คือ การให้ใช้ Leverage ในการทำ Yield Farming ที่ได้อธิบายไว้ช่วงต้นบทความนั่นเอง และ ยังมีการแจกเหรียญให้กับคนที่ใช้ Leverage อีกต่างหาก ผลตอบแทนล่อตาล่อใจขนาดนี้จะให้ไม่ไป Farm ได้ยังไง
Alpha X


ทาง Alpha เขามีความตั้งใจที่จะแก้ปัญหาของระบบ Defi ให้ครอบครุมมากที่สุด และ Alpha X ก็เป็นอีกหนึ่งโปรเจคที่เขากำลังจะทำขึ้นมา ซึ่งก็คือ Decentralize Exchange (DEX) รูปแบบใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน แต่จะออกมาหน้าตาเป็นอย่างไร มีความพิเศษกว่า DEX อื่น ๆ ตรงไหนคงต้องคอยติดตามกันต่อไป
ศึกษาเกี่ยวกับ AlphaX เพิ่มเติม : CLICK
พาร์ทเนอร์ของ Alpha Finance
Brand Protocal บริษัทพัฒนาบล็อกเชนอันดับ 1 ของประเทศไทย
ก่อนอื่นต้องเกริ่นก่อนว่า Project Leader ของ Alpha คุณ ทชา ปัญญาเนรมิตดี (คุณปันปัน) เคยเป็นหัวหน้าทีมกลยุทธ์ของ Band Protocal และในตอนนี้ก็เลยได้ Band Protocal มาเป็นที่ปรึกษาโปรเจค Alpha อีกด้วย
SCB 10X บริษัทโฮลดิ้งคอมพานี ในเครือธนาคารไทยพาณิชย์
SCB 10X เป็นโฮลดิ้งที่จะเข้าไปร่วมลงทุน โดยจะเน้นไปที่กลุ่มเทคสตาร์ทอัพ ซึ่ง Alpha ก็เป็นอีกหนึ่งสตาร์ทอัพที่ทาง SCB 10X เข้าไปร่วมลงทุนด้วย และ นอกจากนั้น SCB 10X ยังส่งทีม ที่มีความรู้ในเรื่องของ คริปโตเคอร์เรนซี บล็อกเชน และ Defi เพื่อเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับทาง Alpha อีกด้วย
อย่างที่เรารู้กันว่าการเงินในปัจจุบันนั้นทำอะไรได้บ้าง ไม่ว่าจะเป็น การฝาก ถอน กู้ยืม การใช้ Leverage ซึ่งที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ Alpha Finance สามารถทำได้ทั้งหมดเช่นกัน เมื่อรู้แบบนี้แล้ว Defi ก็คงไม่ใช่แค่เรื่องไกลตัวพวกเราอีกต่อไป เพราะมันเริ่มฉายภาพให้เห็นเด่นชัดมากขึ้นทุกวันว่า Defi จะเข้ามาเปลี่ยนโลกของเราได้อย่างไร